เมื่อไม่นานมานี้ทางด้านของนาย สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ได้ออกมาเปิดเผยว่า
จากกรณีการช่วยเหลือประชาชนผ่านระบบอีเพย์เมนต์ e payment ที่ทางรัฐบาลได้โอนเงินช่วยเหลือให้แก่ประชาชนผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
ในช่วงที่ผ่านมา พบว่าประชาชนมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและเรียนรู้การใช้จ่ายเงินผ่านระบบอีเพย์เมนต์ e payment ได้เร็ว โดยความสำเร็จเรื่องนี้รวมทั้งข้อมูลที่รัฐบาล
ได้รับในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลกำลังพัฒนาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
ส่วนหนึ่งที่ทางรัฐบาลกำลังศึกษาคือ ในอนาคตอาจให้ประชาชนนั้น สามารถปล่อยเงินกู้ระหว่างกันเองได้ ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง paotang ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนนั้นสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
และประชาชนที่มีเงินออมเพียงพอที่จะสามารถปล่อยเงินกู้และรับความเสี่ยงได้ ก็จะใช้ช่องทางนี้ปล่อยเงินกู้ได้ตามกฎหมายตามที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งรูปแบบนี้ในประเทศจีนมีการดำเนินการโดยบริษัท Alibaba
ซึ่งมีบริษัทลูกที่คอยดำเนินการในเรื่องนี้ โดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ช่วยวิเคราะห์เครดิตของผู้กู้เงิน ทำให้การปล่อยกู้เงินผ่านระบบแอปพลิเคชั่น
สามารถทำได้จริงสำหรับกลไกที่จะมารองรับของทางภาครัฐ อาจมีหน่วยงานกลาง อาจจะเป็นรูปแบบสถาบันขึ้นมา เพื่อช่วยรับประกันการปล่อยเงินกู้บางส่วน
โดยประชาชนที่มาปล่อยกู้ผ่านช่องทางนี้ จะต้องรับความเสี่ยงเองบางส่วน แต่ก็มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่สูงตามอัตราความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นด้วย
เรื่องนี้เรามีทีมที่ช่วยดูอยู่ว่า ในเรื่องการต่อยอดจากโครงการต่างๆที่เป็นลักษณะการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศจะเป็นอย่างไร
ซึ่งในจุดหนึ่งเรากำลังดูเรื่องความเป็นไปได้ของการกู้ยืมเงินกันระหว่างประชาชน ที่มีระบบเข้ามาช่วยประเมินความเสี่ยง
หากสามารถทำได้ก็ลดข้อจำกัดของการเข้าถึงเงินทุนของประชาชนและเอสเอ็มอีขณะที่ในส่วนที่่ทำไป ได้คืบหน้ามากคือ
การทำแพลตฟอร์มในเรื่องของการให้ประชาชนเข้ามาค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งก็จะผ่านแอปฯ เป๋าตัง อีกเช่นกัน อนาคตแอปนี้จะต่อยอดไปสู่อะไรได้อีกมากมาย